วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558

ครั้งที่2 
บันทึกอนุทิน
วันพุธ ที่ 21 เดือนมกราคม พ.ศ.2558
เวลาเรียน 08.30 น. - 12.20 น.
เวลาเข้าสอน 08.30 น. เวลาเข้าเรียน 08.30 น. เวลาเลิกเรียน 12.20 น.

ความรู้ที่ได้รับในวันนี้ 
         อาจารย์ทบทวนเพลง นม โดยให้นักศึกษาร้องเพลง นม อีก2 รอบ จากนั้นอาจารย์ก็ได้สอนเพลงที่เหลือ 4 เพลง ดังนี้

เพลง อาบน้ำ 
อาบน้ำซู่ซ่า      ล้างหน้าล้างตา
ฟอกสบู่ถูตัว    ชำระเหงื่อไคล
ราดน้ำให้ทั่ว     เสร็จแล้วเช็ดตัว
อย่าให้ขุ่นมัว      สุขกายสบายใจ  


 เพลง แปรงฟัน 
ตื่นเช้าเราแปรงฟัน
กินอาหารแล้วเราแปรงฟัน
ก่อนนอนเราแปรงฟัน
ฟันสะอาดขาวเป็นเงางาม
แปรงฟันให้ถูกวิธี ดูซิต้องแปรงขึ้นลง
แปรงฟันให้ถูกวิธี ดูซิต้องแปรงขึ้นลง


 เพลง พี่น้องกัน 
บ้านของฉันอยู่ด้วยกันมากหลาย
พ่อ แม่ ปู่ ย่า ลุง ป้า ตา ยาย
มีทั้งน้า อา พี่และน้องมากมาย
ทุกคนสุขสบาย เราเป็นพี่น้องกัน


 เพลง มาโรงเรียน 
เรามาโรงเรียน  เราเขียนเราอ่าน
ครูเล่านิทานสนุกถูกใจ 
เราเรียนเราเล่น เราเป็นสุขใจ
ร่าเริงแจ่มใสเมื่อมาโรงเรียน

ผู้แต่ง  อ.ศรีนวล  รัตนสุวรรณ

     
หลังจากที่ร้องเพลงเสร็จอาจารย์ก็เข้าสู่บทเรียนในเรื่อง การจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ซึ่งมีหัวข้อดังต่อไปนี้ 
รูปแบบการจัดการศึกษา
1.การศึกษาปกติทั่วไป  คือเด็กทั่วไปเรียน สมัยก่อนในการศึกษารูปแบบนี้เด็กพิเศษจะถูกซ่อนตัวอยู่แต่ในบ้าน ไม่ปรากฏในสังคม
2.การศึกษาพิเศษ  พึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เอาไว้ให้เด็กพิเศษเรียนเท่านั้น
3.การศึกษาแบบเรียนร่วม
4.การศึกษาแบบเรียนรวม 

การศึกษาแบบเรียนร่วม (integrated Education หรือ Mainstreaming)
เด็กจะอยู่ในการดูแลของศูนย์การศึกษาพิเศษ เช่น ศูนย์บำบัด เป็นต้น และเป็นการจัดให้เด็กพิเศษเข้ามาอยู่ในระบบการศึกษาทั่วไป มีกิจกรรมที่ให้เด็กพิเศษกับเด็กทั่วไปได้ทำร่วมกัน ใช้ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของแต่ละวัน การศึกษาแบบเรียนร่วม มี 2 ลักษณะ คือ 
การเรียนร่วมเป็นบางเวลา (integration)
1.เป็นการจัดให้เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติในบางเวลา และจะเป็นเด็กพิเศษที่มีความพิการอยู่ในระดับกลางถึงมาก ส่วนมากกิจกรรมที่นำเด็กพิเศษเข้ามาเรียนร่วมกับเด็กทั่วไปคือ ดนตรี ศิลปะ เคลื่อนไหว
2.การเรียนร่วมเต็มเวลา ( Mainstreaming)
เป็นการจัดเด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนตลอดเวลาที่เด็กอยู่โรงเรียน เด็กพิเศษที่มีความพิการอยู่ในระดับน้อย ซึ่งต้องผ่านครูพิเศษมาแล้ว มีเป้าหมายที่เรียนร่วมเพื่อให้เด็กเข้าใจกัน และมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน

การศึกษาแบบเรียนรวม (inclusive Education)
เป็นการศึกษาสำหรับทุกคน และเป็นการจัดการศึกษาที่จัดให้เด้กพิเศษเข้ามาเรียนรวมกับเด็กปกติโดยรับเข้ามาเรียนรวมกัน ตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษาและจัดให้มีบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละบุคคล
ความสำคัญของการศึกษาแบบเรียนรวม
ปฐมวัยเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการเรียนรู้ สอนได้ และเป็นการจัดการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษที่มีขีดจำกัดน้อยที่สุด


 ความรู้เพิ่มเติม 
- ถ้าเอาเด็กพิเศษมาเรียนร่วมกับเด็กปติ ครูต้องบอกเด็กปกติด้วย แต่ควรบอกอ้อมๆ เช่น เพื่อนไม่สบายนะ ดูแลเพือนด้วย เพื่อนเป็นคนขี้อาย เป็นต้น 
- กิจกรรมในห้องต้องไม่ยากจนเด็กพิเศษทำไม่ได้  แต่ก็อย่าง่ายจนเด็กปกติไม่อยากทำ
- อย่าให้เด็กปกติในห้องนำจุดด้อยของเด็กพิเศษมาล้อ เช่น ตั้งฉายาให้ หรือฉายาจากครู
- เด็กพิเศษช่วงอายุ 0-7 ปี จะสอนง่าย ถ้าเกิน 7 ปีจะสอนยากแล้ว
-อย่าดูถูกเด็กว่าเด็กทำไม่ได้ แต่ครูควรมีวิธีการสอนอย่างไรให้เด็กทำได้ 


หลังจากที่เรียนเสร็จอาจารย์ก็ให้สอบ Post test



การประเมิน 

 ประเมินตนเอง วันนี้เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย วันนี้ตื่นเต้นเพราะมีเพื่อนภาคสมทบมาเรียนด้วย พยายามร้องเพลงให้ได้ ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน วันนี้โดนอาจารย์ติเตือนเรื่องสีผม

 ประเมินเพื่อน วันนี้เพื่อนส่วนมากมาตรงเวลา แต่ก็มีบางคนที่มาสายบ้าง เพื่อนแต่งกายเรียบร้อย เพื่อนๆสนุกกับการร้องเพลง และตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน 

 ประเมินอาจารย์  อาจารย์ร้องเพลงเพราะมากๆ และสอนเข้าใจถึงแม้ว่าวันนี้จะมีนักศึกษาเยอะก็ตาม อาจารย์มีการยกตัวอย่างเพื่อให้นักศึกษาเข้าใจมากยิ่งขึ้น 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น